วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

งูมีขา





เสียงสรวลเสเฮฮาของชายฉกรรจ์ที่อยู่เบื้องหน้า สร้างความดีใจให้กับหนุ่มน้อยเป็นยิ่งนัก เพราะเสียงที่เขาได้ยินนั้นจะทำให้ได้ไหเหล้าที่อยู่ในมือของเข้าได้รับการเปิดให้ลิ้มลองรสชาติเสียที

เมื่อหนุ่มน้อยปรากฏอยู่ต่อหน้ากลุ่มชายฉกรรจ์ ทำให้พวกเข้าเหล้านั้นถึงกับอยากจะโผเข้าไปหา โดยเฉพสะกับไหเหล้าใบเขื่อง

เฮ้ย! ทำไมมาช้านัก แถมได้เหล้ามาไหเดียวเอง แล้วจะพอกินได้อย่างไร ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่ที่สุดในกลุ่มเอ่ยขึ้น

ได้เหล้ามาก็บุญแล้ว กว่าจะเซ่นไหว้เสร็จ พวกพี่ๆ ก็รู้อยู่ว่านายข้าจริงจังกับเรื่องนี้ขนาดไหน หนุ่มน้อยบองถึงที่มาของเหล้า ที่กว่าจะได้มาเขาต้องรอให้เจ้านายไหว้ศาลเจ้าเสร็จเสียก่อน

นายข้ายังฝากมาบอกว่าพวกพี่ด้วยว่า อย่ากินให้มาเดี๋ยวจะเสียการเสียงาน หนุ่มน้อยบอกกับเพื่อนฝูงต่างรุ่น

เฮอะน่า พูดมากเดี๋ยวไม่ได้กินหรอก ชายฉกรรจ์ร่างผอมแห้งเอ่ยขึ้นอย่างหิวกระหายในน้ำเมา

ทุกคนจึงหยุดพูดก่อนจะหันมามองไหเหล้าที่วางอยู่กลางวง

ข้าว่าเอาอย่างนี้ไหม เหล้ามีไหเดียว จะกินตั้งสี่ซ้าห้าคนก็ใช่ที่เรามาแข่งขันกันดีกว่า ว่าใครจะได้ลิ้มรสและครอบครองเหล้าไหนี้ ชายที่มีทีท่าฉลาดที่สุดเอ่ยขึ้น เพื่อนๆ ต่างมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย

ช่ายผู้ออกความคิดเห็น จึงวางกติกาที่ตนเองถนัดที่สุด เพราะเขารู้ว่าหากทำการแข่งขันไม่มีใครสู้เขาได้ เขายิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนที่จะพูดขึ้นว่า พวกเราจะแข่งขันกัน วาดรูปงูไว้บนพื้นคนละ 1 ตัว ใครวาดเสร็จก่อนคนนั้นจะได้ครอบครองเหล้าไหนี้

เพื่อนๆที่ไม่ทันความคิดเขาตอบตกลง

การแข่งขันเริ่มขึ้นเมื่อทุกคนจับจองพื้นดินที่โล่งเตียนเพื่อลงมือวาดรูปงู ชายผู้ออกความคิดเห็นมองเพื่อนๆ อย่านึกขำ เขาก้มๆ เงยๆ อยู่สักพัก รูปงูก็ปรากฏขึ้นอย่างสวยงาม

เสร็จเสียที่ ชายเจ้าเล่ห์คิด ก่อนจะหันไปมองเพื่อนๆ ที่ยังก้มหน้าก้มตาวาดรูปต่อไป ในจำนวนเพื่อนสี่คนมีเพียงชายร่างผอมที่แสดงออกถึงความหิวกระหายในสุราที่สุด วาดรูปงูได้เพียงครึ่งตัว ส่วนเพื่อนคนอื่นยังได้แค่ส่วนหัว ชายเจ้าเล่ห์จังหันไปมองไหสุรา นึกกระยิ้มยิ้มหย่องในใจ

ถึงอย่างไรเหล้าไหนี้ต้องเป็นของเขาอยู่วันยังค่ำ ชายเจ้าเล่ห์มองผลงานตัวเองอย่างภาคภูมิใจ ก่อนจะตัดสินใจไปเติมขางู

ยังมีเวลาอีกเยอะ ข้าไปเติมขางูดีกว่า ชายเจ้าเล่ห์คิด

เมื่อเขาไปเติมขางูเสร็จจึงคิดจะไปคว้าไหเหล้าเพื่อประกาศชัยชนะแต่แล้ว

ในที่สุดข้าก็เป็นผู้พิชิตเหล้าที่รสชาติเยี่ยมยอดไหนี้ ชายร่างผอมพูดขึ้น พลางยกไหเหล้าซดอย่างกระหาย ท่ามกลางสายตาของเพื่อนๆที่มองอย่าอิจฉาโดยเฉพาะชายเจ้าเล่ห์ที่บัดนี้มองรูปงูของตัวเองที่มีขาโผล่พ้นออกมา

งูบ้านเอ็งหรือมีขา ชายผู้ชนะมองรูปงูของเพื่อน พลางหัวเราะอย่างชอบใจ

เสียหัวเราะของเพื่อนๆทุกคนจึงดังขึ้น พลางแย่งไหเหล้าอย่างสนุกสนาม ยกเว้นชายเจ้าเล่ห์ที่รู้สึกเศร้าใจกับการกระทำของตนเอง ที่รู้ว่าผลงานของตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังต่อเติมในสิ่งที่ไม่มีประโยชน์จนต้องพ่ายแพ้

ไม่ต้องเสียใจหรอกเพื่อน มาดวดเหล้ากันดีกว่า เหล้าไหนี้เพื่อทุกๆ คน ชายร่างผอมยังมีน้ำใจแบ่งเหล้าให้กับเพื่อนๆ โดยลืมความพ่ายแพ้ชัยชนะและการแข่งขันไป

ชายเจ้าเล่ห์จึงมาสนุกสนานกับเพื่อนๆ ต่อ ถึงเขาจะพ่ายแพ้แต่มิตรภาพของพวกเขาก็ยังคงอยู่ กลุ่มชายฉกรรจ์จึงตั้งวงเหล้าอย่างสนุกสนานท่ามกลางรูปงูเป็นสักขีพยานในมิตราภาพครั้งนี้


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

หากการลงมือทำอะไรลงไป เมื่อเราแน่ใจว่าผลงานที่เราสร้างขึ้น ว่าสมบูรณ์เรียบร้อยทุกประการ เราไม่จำเป็นต้องไปปรับปรุงเสริมต่อ เพราะบางครั้งการปรับปรุงนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น นอกจากเสียเวลาแล้ว อาจทำให้เสียงานด้วย